นโยบายความเป็นส่วนตัว
โดยที่บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เป็นบริษัทย่อยของบริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้กำหนดนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับใช้บังคับภายในกลุ่มบริษัททั้งหมด ดังนั้น บริษัทในกลุ่มทั้งหมดจึงใช้นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับเดียวกัน
บริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทในกลุ่ม ("บริษัท") เล็งเห็นถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า (ตามที่นิยามไว้ข้างล่างนี้) จึงได้จัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้
("นโยบายความเป็นส่วนตัว") เพื่อใช้บังคับกับข้อมูลส่วนบุคคล (ตามที่นิยามไว้ในข้อ 1 ข้างล่างนี้) ของ
(1) ลูกค้าบุคคลธรรมดาของบริษัท ทั้งที่เป็นลูกค้าเป้าหมาย (ผู้ที่อาจเป็นลูกค้าในอนาคต) ลูกค้าปัจจุบัน และลูกค้าในอดีต
(2) พนักงาน บุคลากร เจ้าหน้าที่ ผู้แทน ผู้ถือหุ้น บุคคลผู้มีอำนาจ กรรมการ ผู้ติดต่อ ตัวแทน และบุคคลธรรมดาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้านิติบุคคลของบริษัท
นโยบายฉบับนี้จะใช้กับลูกค้าเป้าหมาย (ผู้ที่อาจเป็นลูกค้าในอนาคต) ลูกค้าปัจจุบัน และลูกค้าในอดีตของบริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทในกลุ่ม ซึ่งมีรายชื่อดังต่อไปนี้
- บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด
- บริษัทที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด
- บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด
ในเอกสารฉบับนี้บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะเรียกว่า "ท่าน" ส่วนลูกค้าบุคคลธรรมดาและลูกค้านิติบุคคลจะรวมเรียกว่า "ลูกค้า"
นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่ออธิบายถึงวิธีการที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ
นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ใช้บังคับกับธุรกิจ เว็บไซต์ แอปพลิเคชั่นบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ กิจกรรมและนิทรรศการ ช่องทางการติดต่อทางออนไลน์ และวิธีการใด ๆ ที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ
- 1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม
"ข้อมูลส่วนบุคคล" หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับท่านซึ่งระบุถึงตัวท่านหรือทำให้สามารถระบุตัวท่านได้ ตามที่ระบุไว้ข้างล่างนี้ เพื่อที่บริษัทจะให้บริการแก่ท่าน บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านด้วยวิธีการต่าง ๆ บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยตรง (เช่น ผู้แนะนำการลงทุน หรือศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ หรือบุคคลอื่นของบริษัทที่ได้ติดต่อกับท่าน) หรือจากแหล่งอื่น ๆ โดยอ้อม (เช่น สื่อสังคม แพลตฟอร์มออนไลน์ของบุคคลภายนอก หรือแหล่งข้อมูลสาธารณะอื่น ๆ) และผ่านบริษัทในกลุ่ม ผู้ให้บริการ พันธมิตรทางธุรกิจ หน่วยงานทางการ หรือบุคคลภายนอก (เช่น ผู้รับฝากทรัพย์สินที่เป็นบุคคลภายนอก ผู้รับฝากทรัพย์สินช่วง และนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์) ประเภทของข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ของลูกค้ากับบริษัท และบริการหรือผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าต้องการจากบริษัท
"ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน" หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายจัดประเภทเป็นข้อมูลที่ละเอียดอ่อน บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลที่ละเอียดอ่อนไปยังต่างประเทศก็ต่อเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือกฎหมายอนุญาตให้กระทำได้
- 1.1. ลูกค้าบุคคลธรรมดา
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งบริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลส่วนบุคคลประเภทดังต่อไปนี้
(ก) ข้อมูลส่วนตัว เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ เพศ อายุ อาชีพ ตำแหน่งงาน เงินเดือน ที่ทำงาน ตำแหน่ง การศึกษา สัญชาติ วันเกิด สถานภาพทางการสมรส ข้อมูลบนบัตรที่ออกโดยรัฐบาล (เช่น เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร ข้อมูลใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ เป็นต้น) ลายมือชื่อ การบันทึกเสียง การบันทึกการสนทนาทางโทรศัพท์ รูปถ่าย การบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิด ทะเบียนบ้าน และข้อมูลประจำตัวอื่น ๆ เป็นต้น
(ข) ข้อมูลเพื่อการติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ หมายเลขโทรสาร ที่อยู่อีเมล และรหัสประจำตัวสำหรับการติดต่อสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ เป็นต้น
(ค) ข้อมูลบัญชีและข้อมูลทางการเงิน เช่น ข้อมูลบัตรเครดิตและบัตรเดบิต หมายเลขบัญชีและประเภทของบัญชี ข้อมูลพร้อมเพย์ สินทรัพย์หมุนเวียน รายได้และค่าใช้จ่าย ตลอดจนข้อมูลการชำระเงิน และข้อมูลการสมัครใช้บริการและผลิตภัณฑ์ เป็นต้น
(ง) ข้อมูลการทำธุรกรรม เช่น ประเภทของผลิตภัณฑ์ (อาทิ หลักทรัพย์ ตราสารอนุพันธ์ ราคาและปริมาณ หมายเลขคำสั่งซื้อ หมายเลขนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ เงื่อนไข (ถ้ามี) ประวัติการซื้อขายและยอดคงเหลือ ประวัติการชำระเงินและการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินของท่าน งบการเงิน หนี้สิน ภาษี รายได้ กำไรและเงินลงทุน แหล่งที่มาของความมั่งคั่งและเงินทุน การเป็นตัวแทน ข้อมูลการซื้อขาย ประวัติการผิดนัด มูลค่าของหลักประกัน และข้อมูลเงินกู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ เป็นต้น
(จ) ข้อมูลทางเทคนิค เช่น เลขที่อยู่ไอพีหรืออินเทอร์เน็ตโพรโทคอล (IP Address) เว็บบีคอน (Web Beacon) ล็อก (Log) ไอดีอุปกรณ์ (Device ID) รุ่นอุปกรณ์และประเภทของอุปกรณ์ เครือข่าย ข้อมูลการเชื่อมต่อ ข้อมูลการเข้าถึง ข้อมูลการเข้าใช้งานแบบ Single Sign-On (SSO) การเข้าสู่ระบบ (Login log) เวลาที่เข้าถึง ระยะเวลาที่ใช้บนหน้าเพจของบริษัท คุกกี้ ข้อมูลการเข้าสู่ระบบ ประวัติการค้นหา ข้อมูลการเรียกดู ประเภทและเวอร์ชั่นของเบราว์เซอร์ การตั้งค่าเขตเวลา (Time Zone Setting) และสถานที่ตั้ง ประเภทและเวอร์ชั่นของปลั๊กอินเบราว์เซอร์ ระบบปฏิบัติการและแพลตฟอร์ม และเทคโนโลยีอื่น ๆ บนอุปกรณ์ที่ท่านใช้ในการเข้าถึงแพลตฟอร์ม เป็นต้น
(ฉ) รายละเอียดข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อบัญชี (Account Identifiers) ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน รหัสประจำตัว (PIN ID code) สำหรับการซื้อขาย ความสนใจและความพึงพอใจ กิจกรรม เป้าหมายการลงทุน ความรู้และประสบการณ์การลงทุน และระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ (Risk Tolerance) เป็นต้น
(ช) ข้อมูลการใช้งาน เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานของท่านบนเว็บไซต์ แพลตฟอร์ม การใช้ผลิตภัณฑ์และบริการ เป็นต้น
- 1.2. ลูกค้านิติบุคคล
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งบริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลส่วนบุคคลประเภทดังต่อไปนี้
(ก) ข้อมูลระบุตัวบุคคล เช่น ชื่อ นามสกุล คำนำหน้าชื่อ อายุ เพศ รูปถ่าย ข้อมูลในประวัติส่วนบุคคล การศึกษา ข้อมูลเกี่ยวกับงาน (เช่น สถานะ หน้าที่ อาชีพ ตำแหน่งงาน บริษัทที่ท่านทำงานให้ หรือเป็นพนักงาน หรือถือหุ้นอยู่ เป็นต้น) ข้อมูลบนบัตรที่ออกโดยรัฐบาล (เช่น เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน เลขที่หนังสือเดินทาง เป็นต้น) อัตราส่วนการถือหุ้น ลายมือชื่อ และข้อมูลประจำตัวอื่น ๆ ของท่าน เป็นต้น
(ข) ข้อมูลเพื่อการติดต่อ เช่น หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่ ประเทศ ที่อยู่อีเมล และข้อมูลอื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน เป็นต้น
(ค) ข้อมูลส่วนตัวที่สร้างขึ้นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของลูกค้ากับบริษัท เช่น การเปิดบัญชี การบริหารจัดการ การดำเนินงาน การชำระเงิน การชำระบัญชี การประมวลผลและการรายงานในนามของลูกค้า ข้อมูลส่วนตัวดังกล่าวอาจรวมถึงลายมือชื่อและหนังสือติดต่อกับบริษัท เป็นต้น
(ง) ข้อมูลอื่น ๆ ที่มีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์กับบริษัท เช่น ข้อมูลที่ท่านให้แก่บริษัทในสัญญา แบบฟอร์มหรือการสำรวจ หรือข้อมูลที่เก็บรวบรวมในเวลาที่ท่านเข้าร่วมกิจกรรมทางธุรกิจ การสัมมนา หรือกิจกรรมทางสังคมของบริษัท เป็นต้น
- 1.3. การเก็บข้อมูลที่ละเอียดอ่อน
ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของท่านซึ่งบริษัทจะเก็บรวมรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศ ได้แก่
(ก) ข้อมูลชีวมาตร ได้แก่ ระบบจดจำใบหน้า ลายนิ้วมือ เป็นต้น
(ข) ข้อมูลสุขภาพ เช่น ข้อมูลการรักษาพยาบาล เป็นต้น
(ค) ประวัติอาชญากรรม ประวัติการทำความผิด พรบ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กฎหมายฟอกเงิน
(ง) ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนอื่น ๆ ซึ่งแสดงอยู่ในบัตรประจำตัวประชาชน หรือเอกสารยืนยันตัวตนที่ออกโดยหน่วยงานราชการ
- 2. วัตถุประสงค์ที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทอาจเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของท่านไปยังต่างประเทศ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
- 2.1. วัตถุประสงค์ที่บริษัทจำเป็นต้องได้รับความยินยอม
บริษัทอาศัยความยินยอมของท่านเพื่อ
(ก) การติดต่อสื่อสารทางการตลาด การเสนอข้อเสนอพิเศษ เอกสารส่งเสริมการขายที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท และบุคคลภายนอกซึ่งบริษัทไม่สามารถอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายอื่น
(ข) การเก็บรวบรวม การใช้ และ/หรือการเปิดเผยข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
(1) ข้อมูลชีวมาตร ได้แก่ ระบบจดจำใบหน้า ลายนิ้วมือ เพื่อการเข้าถึงสถานที่/การสมัครใช้บริการ และการยืนยันและพิสูจน์ตัวบุคคล
(2) ข้อมูลสุขภาพ เช่น ข้อมูลการรักษาพยาบาล เพื่อการอำนวยความสะดวก
(3) ประวัติอาชญากรรม ประวัติการกระทำความผิดตามกฎหมาย เพื่อการตรวจสอบภูมิหลัง
อย่างไรก็ตาม สำหรับเอกสารยืนยันตัวตนที่ออกโดยหน่วยงานราชการซึ่งบริษัทจำเป็นต้องใช้เพื่อการยืนยันและพิสูจน์ตัวบุคคล และเอกสารดังกล่าวมีข้อมูลที่ละเอียดอ่อนแสดงอยู่ซึ่งบริษัทจะไม่ใช้และ/หรือเปิดเผย ข้อมูลดังกล่าว บริษัทสามารถเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าวได้โดยไม่ต้องขอความยินยอมจากท่าน
(ค) การโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังประเทศที่อาจจะไม่มีระดับการคุ้มครองข้อมูลที่เพียงพอ ซึ่งกฎหมายกำหนดให้ต้องได้รับความยินยอม
ในกรณีที่หลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายกำหนดให้บริษัทต้องขอความยินยอมและท่านให้ความยินยอมดังกล่าว ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมของท่านได้โดยติดต่อบริษัทตามรายละเอียดในข้อ 10 ทั้งนี้
การถอนความยินยอมจะไม่กระทบต่อความชอบด้วยกฎหมายของการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของท่านตามความยินยอมของท่านก่อนที่จะขอถอน
- 2.2. วัตถุประสงค์ที่บริษัทอาจดำเนินการโดยอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายอื่น ๆ ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทอาจอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายดังต่อไปนี้เพื่อเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ กล่าวคือ (1) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา สำหรับการเข้าทำสัญญาหรือการปฏิบัติตามสัญญากับท่าน (2) เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย (3) เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทและของบุคคลภายนอก เพื่อให้สมดุลกับประโยชน์และสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (4) เพื่อการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล และ (5) ประโยชน์สาธารณะ สำหรับการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐ
บริษัทจะอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายใน (1) ถึง (5) ข้างต้น เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
- 2.2.1. ลูกค้าบุคคลธรรมดา
(ก) การติดต่อกับท่านก่อนที่ท่านจะเข้าทำสัญญากับบริษัท
(ข) การประมวลผล คำขอเปิดบัญชี การดำรงบัญชี และการดำเนินการที่เกี่ยวกับบัญชีของท่าน รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การประมวลผลคำขอหรือการร้องขอบริการหรือผลิตภัณฑ์ การประมวลผลธุรกรรมของท่าน การออกรายงานแสดงความเคลื่อนไหวของบัญชี และการดำเนินการและการปิดบัญชีของท่าน
(ค) การให้บริการแก่ท่านทั้งที่บริษัทให้บริการอยู่ในปัจจุบันหรือที่อาจมีเพิ่มเติมขึ้นในอนาคต
(ง) การจัดหาผลิตภัณฑ์การลงทุน การเสนอทางเลือกให้แก่ท่าน (รวมถึงผลิตภัณฑ์การลงทุนของบุคคล ภายนอก) เป็นครั้งคราว และการจัดการเรื่องทั้งปวงที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์การลงทุนเหล่านี้
(จ) การบริหารความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัท และการบริหารจัดการบัญชีที่ท่านมีอยู่กับบริษัท
(ฉ) การป้องกันลูกค้าจากข้อจำกัดบางประการ (เช่น การป้องกันผู้สูงอายุหรือผู้ที่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษจากการเข้าทำธุรกรรมบางประเภทด้วยตนเอง เพื่อวัตถุประสงค์ในการควบคุมความเสียหาย เป็นต้น)
(ช) การดำเนินการตามคำสั่งของท่าน หรือการตอบข้อซักถามหรือความคิดเห็นของท่าน และการแก้ไขเรื่องร้องเรียนของท่าน
(ซ) การยืนยันตัวบุคคลและการตรวจสอบข้อมูลเครดิต กระบวนการทำความรู้จักลูกค้า (know-your-customer (KYC)) และตรวจสอบสถานะลูกค้า (customer due diligence (CDD)) การตรวจสอบและคัดกรองอื่น ๆ และการติดตามตรวจสอบอย่างต่อเนื่องที่อาจจำเป็นตามกฎหมายที่ใช้บังคับโดยอาศัยสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน ใบสำคัญการสมรส และเอกสารที่เกี่ยวข้อง
(ฌ) การป้องกัน ตรวจจับ และสอบสวนการฉ้อโกง การประพฤติมิชอบ หรือกิจกรรมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ว่าจะได้รับการร้องขอจากหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานกำกับดูแลหรือไม่ และการวิเคราะห์และบริหารความเสี่ยง
(ญ) การปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบ กฎเกณฑ์ แนวทาง คำสั่ง คำแนะนำ และการร้องขอจากหน่วยงานของรัฐ หน่วยงานภาษีอากร หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย หรือหน่วยงานอื่น ๆ หรือหน่วยงานกำกับดูแล (ไม่ว่าในประเทศหรือต่างประเทศ) เช่น ตลาดหลักทรัพย์ ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ สำนักหักบัญชี สำนักงาน กลต. สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรมสรรพากร และธนาคารแห่งประเทศไทย
(ฎ) การจัดการโครงสร้างพื้นฐานของบริษัท การควบคุมภายใน การตรวจสอบภายใน และการดำเนินธุรกิจ และการปฏิบัติตามนโยบายและขั้นตอนของบริษัทที่อาจจำเป็นโดยกฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับ รวมถึงกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมความเสี่ยง การรักษาความปลอดภัย การตรวจสอบ การเงินและการบัญชี ระบบต่าง ๆ และความต่อเนื่องทางธุรกิจ
(ฏ) การจัดการหรือการสอบสวนเรื่องร้องเรียน ข้อเรียกร้อง หรือข้อพิพาทใด ๆ
(ฐ) การติดต่อสื่อสารทางการตลาด การให้ข้อมูล ข้อเสนอพิเศษ และเอกสารส่งเสริมการขายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท บริษัทในกลุ่ม และบุคคลภายนอก
(ฑ) การพัฒนาบริการและผลิตภัณฑ์ใหม่ และการให้ข้อมูลที่เป็นปัจจุบันแก่ท่านเกี่ยวกับบริการและผลิตภัณฑ์ของบริษัทเป็นครั้งคราว
(ฒ) การทำวิจัย การวางแผนและการวิเคราะห์ทางสถิติ เช่น ในด้านวงเงินลงทุนและพฤติกรรมการลงทุนของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ในการพัฒนาบริการและผลิตภัณฑ์ของบริษัท เป็นต้น
(ณ) การจัดโครงการหรือกิจกรรมส่งเสริมการขาย การประชุม การสัมมนา และการเยี่ยมชมบริษัท
(ด) การบังคับสิทธิตามกฎหมายหรือตามสัญญาของบริษัท รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การติดตามทวงถามจำนวนเงินใด ๆ ทั้งหมดที่ค้างชำระต่อบริษัท
(ต) การอำนวยความสะดวกในการตรวจสอบทางการเงินที่จะดำเนินการโดยผู้สอบบัญชี หรือการรับบริการที่ปรึกษากฎหมายจากที่ปรึกษากฎหมายที่แต่งตั้งโดยท่านหรือบริษัท
(ถ) การปฏิบัติตามภาระหน้าที่ของบริษัทภายใต้สัญญาใด ๆ ที่บริษัทเป็นคู่สัญญา เช่น สัญญากับพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท ผู้ขาย หรือบริษัทบริหารสินทรัพย์อื่น ๆ หรือภายใต้สัญญาที่บริษัททำหน้าที่เป็นตัวแทน และ
ในกรณีที่บริษัทไม่สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติตามภาระหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัทหรือการเข้าทำสัญญากับท่าน บริษัทอาจจะไม่สามารถจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการให้แก่ท่านได้ตามที่ท่านประสงค์
- 2.2.2. ลูกค้านิติบุคคล
(ก) การติดต่อสื่อสารทางธุรกิจ เช่น การติดต่อสื่อสารกับลูกค้าเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัท เป็นต้น
(ข) การคัดเลือกลูกค้า เช่น การตรวจสอบตัวตนของท่านและสถานะลูกค้า การตรวจสอบสถานะหรือการตรวจสอบภูมิหลังในรูปแบบอื่น ๆ หรือการระบุความเสี่ยงเกี่ยวกับท่านและลูกค้า (รวมถึงการตรวจสอบคัดกรองกับรายชื่อบุคคลที่ถูกกำหนด (sanction lists) ของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของรัฐและ/หรือที่เป็นทางการซึ่งเปิดเผยเป็นการทั่วไป ตามที่กฎหมายกำหนด) การประเมินความเหมาะสมและคุณสมบัติของคุณและลูกค้า การออกคำขอใบเสนอราคาและการเชิญชวนประกวดราคา การเข้าทำสัญญากับท่านหรือลูกค้า เป็นต้น
(ค) การจัดการข้อมูลลูกค้า เช่น การเก็บและปรับปรุงข้อมูลลูกค้าให้เป็นปัจจุบัน (รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน) การจัดเก็บสัญญาและเอกสารที่เกี่ยวข้องซึ่งอาจมีการอ้างถึงท่าน เป็นต้น
(ง) การบริหารความสัมพันธ์ เช่น การวางแผน การดำเนินการ และการบริหารความสัมพันธ์ (ทางสัญญา) กับลูกค้า ด้วยการทำธุรกรรมและดำเนินการตามคำสั่งสำหรับผลิตภัณฑ์หรือบริการ การประมวลผลการชำระเงิน การดำเนินกิจกรรมด้านการบัญชี การตรวจสอบ การเรียกเก็บเงินและการจัดเก็บเงิน การจัดการด้านการจัดส่งและการส่งมอบ การให้บริการสนับสนุน เป็นต้น
(จ) การวิเคราะห์และปรับปรุงธุรกิจ เช่น การทำวิจัย การวิเคราะห์ข้อมูล การประเมิน การสำรวจและการรายงานเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท และผลการดำเนินงานของลูกค้า การพัฒนาและปรับปรุงกลยุทธ์การตลาด และผลิตภัณฑ์และบริการ เป็นต้น
(ฉ) ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสนับสนุน เช่น การจัดหาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสนับสนุนการใช้งานระบบ การสร้างและเก็บรหัสและข้อมูลส่วนตัวสำหรับท่าน การบริหารจัดการการเข้าถึงระบบใด ๆ ที่บริษัทได้อนุญาตให้ท่านเข้าถึงได้ การยกเลิกบัญชีที่ไม่มีการเคลื่อนไหว การดำเนินการควบคุมธุรกิจเพื่อให้ธุรกิจของบริษัทสามารถดำเนินไปได้ และการช่วยให้บริษัทสามารถระบุและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัท และการดูแลให้ระบบของบริษัทมีความปลอดภัย การพัฒนา การใช้ การดำเนินงาน และการบำรุงรักษาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น
(ช) การติดตามตรวจสอบความปลอดภัยของระบบ เช่น การยืนยันตัวบุคคล การควบคุมและการบันทึกการเข้าถึงระบบ การติดตามตรวจสอบระบบ อุปกรณ์ และระบบอินเทอร์เน็ต การตรวจสอบความมั่นคงปลอดภัยของเทคโนโลยีสารสนเทศ การป้องกันและแก้ไขอาชญากรรม ตลอดจนการบริหารความเสี่ยงและการป้องกันการฉ้อโกง เป็นต้น
(ซ) การจัดการข้อพิพาท เช่น การแก้ไขข้อพิพาท การบังคับสัญญาของบริษัท การกำหนด การใช้หรือการต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย เป็นต้น
(ฌ) การตรวจสอบกิจการภายใน เช่น การตรวจสอบ การป้องกัน การพิจารณาข้อร้องเรียนและ/หรืออาชญากรรมหรือการฉ้อโกง เป็นต้น
(ญ) การปฏิบัติตามกฎระเบียบภายในองค์กร เช่น การปฏิบัติตามนโยบายภายในองค์กร และกฎหมาย กฎระเบียบ คำสั่ง และแนวทางของหน่วยงานกำกับดูแลที่มีผลบังคับใช้
(ฎ) การปฏิบัติตามกฎหมายและคำสั่งของหน่วยงานของรัฐ เช่น การประสานงาน การให้ข้อมูล ข้อเท็จจริง และปฏิบัติตามคำสั่งของหน่วยงานของรัฐหรือศาลตามที่ร้องขอ เป็นต้น
(ฏ) วัตถุประสงค์ทางการตลาด เช่น การแจ้งข่าวสารและการประชาสัมพันธ์ของบริษัทซึ่งอาจเป็นที่น่าสนใจต่อลูกค้า กิจกรรมต่าง ๆ การเสนอบริการใหม่ การทำการสำรวจ (Survey) เป็นต้น
(ฐ) การปฏิบัติตามข้อกำหนดทางธุรกิจที่สมเหตุสมผล เช่น การจัดการ การฝึกอบรม การตรวจสอบ การรายงาน การควบคุม หรือการบริหารความเสี่ยง สถิติ การวิเคราะห์แนวโน้มและการวางแผน หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องหรือคล้ายคลึงกัน เป็นต้น
- 3. วิธีการที่บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทอาจเปิดเผย หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอก (รวมถึงบุคลากรและตัวแทนของบุคคลภายนอก) ภายในประเทศไทยหรือต่างประเทศ ซึ่งประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ โดยท่านสามารถอ่านนโยบายความเป็นส่วนตัวของบุคคลภายนอกเหล่านั้นเพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการที่บุคคลภายนอกดังกล่าวประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ ตามรายละเอียดดังนี้
- 3.1. ลูกค้าบุคคลธรรมดา
- 3.1.1. บริษัทภายในกลุ่มของบริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)
เนื่องจาก บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) บริษัทอาจจำเป็นต้องโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบริษัทอื่น ๆ ภายในกลุ่มบริษัท หรืออนุญาตให้บริษัทอื่น ๆ ภายในกลุ่มบริษัท เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ระบุไว้ข้างต้น ท่านสามารถดูรายชื่อบริษัทและขอบเขตของกิจกรรมภายในกลุ่มบริษัทได้ที่ https://www.asiaplusgroup.co.th/
- 3.1.2. ผู้ให้บริการของบริษัท
บริษัทอาจมอบหมายให้บริษัทตัวแทน หรือผู้รับจ้างเพื่อการให้บริการต่าง ๆ ในนามของบริษัท หรือเพื่อช่วยเหลือในการจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการให้แก่ท่าน บริษัทอาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับ
ผู้ให้บริการเหล่านี้ เช่น ผู้ให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศ ตัวแทนการวิจัย ผู้ให้บริการการวิเคราะห์ ตัวแทนการสำรวจ ตัวแทนด้านการตลาด สื่อโฆษณาและการติดต่อสื่อสาร ผู้ให้บริการชำระเงิน ผู้ให้บริการด้านธุรการและการดำเนินงาน เป็นต้น
ในการให้บริการเหล่านี้ ผู้ให้บริการอาจเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อย่างไรก็ตาม บริษัทจะให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่ผู้ให้บริการของบริษัทเพียงเท่าที่จำเป็นในการให้บริการโดยผู้ให้บริการเหล่านี้ และบริษัทจะขอให้ผู้ให้บริการเหล่านี้ไม่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด บริษัทจะดำเนินการให้เป็นที่มั่นใจว่าผู้ให้ บริการทุกรายที่บริษัททำงานด้วยจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้อย่างปลอดภัย
- 3.1.3. พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท
บริษัทอาจโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลที่กระทำการในนามของท่าน หรือเกี่ยวข้องในการจัดหาผลิตภัณฑ์หรือบริการประเภทใดที่ท่านได้รับจากบริษัท ซึ่งรวมถึงผู้รับเงิน ผู้รับผลประโยชน์ ตัวกลาง (เช่น บริษัทหลักทรัพย์อื่น เป็นต้น) ผู้รับฝากทรัพย์สิน ธนาคารตัวแทน ตัวแทน ผู้ขาย พันธมิตรธุรกิจร่วม คู่สัญญา ผู้ออกผลิตภัณฑ์ ที่บริษัทเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้ในการจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการให้แก่ท่าน และที่ท่านอนุญาตให้บริษัทเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ แต่ทั้งนี้ผู้รับข้อมูลเหล่านี้ต้องตกลงที่จะปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยสอดคล้องกับนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้
- 3.1.4. บุคคลภายนอกตามที่กฎหมายอนุญาต
ในบางสถานการณ์ บริษัทอาจจะจำเป็นที่จะต้องเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับบุคคลภายนอก เพื่อปฏิบัติตามภาระหน้าที่ตามกฎหมายหรือกฎระเบียบ ซึ่งรวมถึง การปฏิบัติตามหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย ศาล หน่วยงานกำกับดูแล หน่วยงานของรัฐ หรือบุคคลภายนอกอื่น ๆ ในกรณีที่บริษัทเห็นว่าการเปิดเผยหรือการโอนนั้นจำเป็นเพื่อที่จะปฏิบัติตามภาระหน้าที่ตามกฎหมายหรือกฎระเบียบ หรือเพื่อการปกป้องสิทธิของบริษัท สิทธิของบุคคลอื่น หรือเพื่อความปลอดภัยของบุคคลหรือบุคคลภายนอกใด ๆ หรือเพื่อตรวจสอบ ป้องกัน หรือจัดการเกี่ยวกับปัญหาการฉ้อโกง หรือด้านความมั่นคงหรือความปลอดภัย
- 3.1.5. ที่ปรึกษาวิชาชีพ
บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังที่ปรึกษาวิชาชีพของบริษัทที่เกี่ยวกับบริการด้านการตรวจสอบ กฎหมาย การบัญชี และภาษีอากร ซึ่งช่วยในการประกอบธุรกิจ หรือจัดการเกี่ยวกับ
ข้อเรียกร้องทางกฎหมาย
- 3.1.6. บุคคลภายนอก เช่น ผู้รับโอนสิทธิ ผู้รับโอน หรือผู้รับแปลงหนี้
บริษัทอาจมอบ โอน หรือแปลงหนี้สิทธิหรือภาระผูกพันของบริษัทให้แก่บุคคลภายนอก เพียงเท่าที่ได้รับอนุญาตตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของสัญญาระหว่างท่านกับบริษัท บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้รับโอนสิทธิ ผู้รับโอน หรือผู้รับแปลงหนี้ รวมถึงบุคคลที่อาจเป็นผู้รับโอนสิทธิ ผู้รับโอน หรือผู้รับแปลงหนี้ แต่ทั้งนี้ผู้รับข้อมูลเหล่านี้ต้องตกลงที่จะปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยสอดคล้องกับนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้
- 3.1.7. บุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้องกับการโอนธุรกิจ
บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังพันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ลงทุน ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ผู้รับโอนสิทธิ บุคคลที่อาจเป็นผู้รับโอนสิทธิ ผู้รับโอนหรือบุคคลที่อาจเป็นผู้รับโอนของบริษัท ในกรณีที่มีการฟื้นฟูกิจการ การปรับโครงสร้างกิจการ การควบรวมกิจการ การเข้าซื้อกิจการ การขาย การซื้อ กิจการร่วมค้า การโอน การเลิกกิจการ หรือเหตุการณ์ใดในทำนองเดียวกันที่เกี่ยวข้องกับการโอนหรือการจำหน่ายจ่ายโอนธุรกิจ ทรัพย์สิน หรือหุ้นทั้งหมดหรือส่วนใด ๆ ของบริษัท ถ้ามีเหตุการณ์ใด ๆ ดังกล่าวข้างต้นเกิดขึ้น ผู้รับข้อมูลจะปฏิบัติตามนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ในส่วนที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
- 3.2 ลูกค้านิติบุคคล
บริษัทอาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับบุคคลอื่น ๆ เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ระบุในข้อ 2 ข้างต้น เช่น บริษัทในกลุ่ม พันธมิตรทางธุรกิจอื่น ๆ ของบริษัท ผู้ให้บริการบุคคลภายนอกที่บริษัทจ้างในบางสถานการณ์ บริษัทแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับหน่วยงานของรัฐ หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ศาล หน่วยงานกำกับดูแล หรือบุคคลภายนอกอื่น ๆ ในกรณีที่บริษัทเชื่อว่าการแบ่งปันนั้นจำเป็นเพื่อที่จะปฏิบัติตามภาระหน้าที่ตามกฎหมายหรือกฎระเบียบ หรือเพื่อการปกป้องสิทธิของบริษัท สิทธิของบุคคลอื่น หรือเพื่อความปลอดภัยของบุคคลหรือบุคคลภายนอกใด ๆ หรือเพื่อตรวจสอบ ป้องกัน หรือจัดการเกี่ยวกับปัญหาการฉ้อโกง หรือด้านความมั่นคงหรือความปลอดภัย
เมื่อบริษัทโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบุคคลภายนอก บริษัทจะดำเนินการเพื่อให้มั่นใจถึงการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น ทำความตกลงการเก็บรักษาความลับกับผู้รับข้อมูล หรือดำเนินมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมอื่น ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด
- 4. การโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้รับที่อยู่ในต่างประเทศ
บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอก หรือเครื่องหรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์แม่ข่าย (Server) ที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ ซึ่งประเทศปลายทางอาจมี หรืออาจไม่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลในลักษณะเดียวกันกับประเทศไทย ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการตามขั้นตอนและมาตรการต่าง ๆ เพื่อทำให้ท่านมั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกโอนไปอย่างปลอดภัย บุคคลที่รับโอนข้อมูลนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และการโอนข้อมูลนั้นชอบด้วยกฎหมายโดยอาศัยข้อยกเว้นตามที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย
- 5. ระยะเวลาในการที่บริษัทเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นอย่างสมเหตุสมผล เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลนั้นมาตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ และเพื่อปฏิบัติตามภาระหน้าที่ทางกฎหมายและกฎข้อบังคับต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม หากจำเป็น บริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลานานขึ้นตามที่กฎหมายหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนด
- 6. ข้อมูลที่สำคัญอื่น ๆ เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
- 6.1. คุกกี้และวิธีการใช้คุกกี้
หากท่านเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัท บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลบางประการโดยอัตโนมัติจากท่านด้วยการใช้คุกกี้ ซึ่งคุกกี้เป็นเทคโนโลยีการติดตามประเภทหนึ่งซึ่งนำมาใช้ในการวิเคราะห์กระแสความนิยม (trend) การบริหารจัดการเว็บไซต์ ติดตามความเคลื่อนไหวการใช้เว็บไซต์ของบริษัท หรือเพื่อจดจำการตั้งค่าของผู้ใช้บริการ
อินเทอร์เน็ตเบราว์เซอร์ส่วนใหญ่จะให้ท่านควบคุมได้ว่าจะยอมรับคุกกี้หรือไม่ หากท่านปฏิเสธการติดตามโดยคุกกี้ ความสามารถของท่านในการใช้งานคุณลักษณะหรือพื้นที่ทั้งหมดหรือบางส่วนของเว็บไซต์อาจถูกจำกัด
- 6.2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้โดยผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ หรือคนไร้ความสามารถ
โดยทั่วไป ธุรกิจของบริษัทไม่ได้มีเป้าหมายที่ผู้เยาว์ และบริษัทจะไม่เจตนาเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากลูกค้าซึ่งเป็นผู้เยาว์ (บุคคลซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะ) (บุคคลจะบรรลุนิติภาวะเมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์หรือโดยการสมรส) โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครอง หรือไม่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากคนเสมือนไร้ความสามารถโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้พิทักษ์ตามกฎหมาย หรือไม่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากคนไร้ความสามารถโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้อนุบาลตามกฎหมาย
ในกรณีที่ท่านเป็นผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ หรือคนไร้ความสามารถ ซึ่งประสงค์จะมีความสัมพันธ์ทางสัญญากับบริษัท ท่านต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครอง ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาลของท่านก่อนที่จะติดต่อบริษัทหรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บริษัท หากบริษัททราบว่าบริษัทได้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่เจตนาจากผู้เยาว์โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครอง หรือจากคนเสมือนไร้ความสามารถโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้พิทักษ์ หรือคนไร้ความสามารถโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้อนุบาล บริษัทจะลบข้อมูลส่วนบุคคลนั้นทันที อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นต่อไปหากบริษัทสามารถอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายอื่นนอกจากการขอความยินยอม
- 6.3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับบุคคลภายนอก
หากท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามใด ๆ เช่น คู่สมรสและบุตรของท่าน ผู้ถือหุ้น กรรมการ ผู้รับผลประโยชน์ รายละเอียดการติดต่อในกรณีฉุกเฉิน การส่งต่อในกรณีการรักษาเร่งด่วน เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่อีเมล และหมายเลขโทรศัพท์ของบุคคลเหล่านั้น ท่านต้องมีอำนาจที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว และมีอำนาจอนุญาตให้บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตามนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ได้ อีกทั้งท่านต้องรับผิดชอบในการแจ้งให้บุคคลที่สามเหล่านั้นทราบถึงนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ และขอรับความยินยอมจากบุคคลที่สามที่เกี่ยวข้องหากจำเป็น หรืออาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายอื่น
- 7. สิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ภายใต้บทบัญญัติแห่งกฎหมายและข้อยกเว้นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ท่านอาจมีสิทธิตามที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
(ก) การเข้าถึง: ท่านอาจมีสิทธิในการขอเข้าถึงหรือขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทประมวลผลเกี่ยวกับท่าน
(ข) การโอนย้ายข้อมูล: ท่านอาจมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทมีเกี่ยวกับท่านในรูปแบบที่มีการจัดระเบียบแล้วและสามารถอ่านได้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ และเพื่อส่งหรือโอนข้อมูลดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น
(ค) การคัดค้าน: ในบางกรณี ท่านอาจมีสิทธิคัดค้านวิธีการที่บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในบางกิจกรรมซึ่งระบุในนโยบายฉบับนี้
(ง) การลบหรือทำลายข้อมูล: ท่านอาจมีสิทธิขอให้บริษัทดำเนินการลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทประมวลผลเกี่ยวกับท่าน เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูล เช่น หากข้อมูลนั้นไม่จำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลอีกต่อไป
(จ) การจำกัด: ท่านอาจมีสิทธิจำกัดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากท่านเชื่อว่าข้อมูลนั้นไม่ถูกต้อง หรือการประมวลผลของบริษัทไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือบริษัทไม่จำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลนั้นเพื่อวัตถุประสงค์อย่างหนึ่งอย่างใดอีกต่อไป
(ฉ) การแก้ไขให้ถูกต้อง: ท่านอาจมีสิทธิขอให้มีการดำเนินการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่สมบูรณ์
ไม่ถูกต้อง ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือไม่เป็นปัจจุบัน
(ช) การถอนความยินยอม: ท่านอาจมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมที่ท่านได้ให้แก่บริษัทเพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับสิทธิที่จะถอนความยินยอมตามที่กฎหมายกำหนด หรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน
(ซ) การยื่นเรื่องร้องเรียน: ท่านอาจมีสิทธิยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่มีอำนาจในกรณีที่ท่านเห็นว่าบริษัททำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่สอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลที่บังคับใช้
- 8. วันที่กฎหมายมีผลใช้บังคับ
บริษัทจะปฏิบัติตามนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เมื่อกฎหมายที่เกี่ยวข้องมีผลบังคับใช้แล้ว
- 9. การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้
บริษัทอาจเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เป็นครั้งคราว บริษัทขอแนะนำให้ท่านอ่านนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้อย่างละเอียดรอบคอบ และตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นตามข้อกำหนดของนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ที่ https://www.asiaplus.co.th/ เป็นระยะ ๆ โดยบริษัทจะแจ้งเตือนให้ท่านทราบหรือขอความยินยอมจากท่านอีกครั้งหากมีการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ หรือหากบริษัทมีความจำเป็นโดยกฎหมายที่จะต้องทำการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้
- 10. รายละเอียดการติดต่อบริษัท
หากท่านมีความประสงค์ที่จะใช้สิทธิของท่านที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือมีข้อสงสัยหรือเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ท่านสามารถติดต่อบริษัทหรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของกลุ่มบริษัทตามรายละเอียดดังต่อไปนี้
(ก) ข้อมูลการติดต่อบริษัท
บริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)
175 อาคารสาธรซิตี้ทาวเวอร์ ชั้น 3/1 ถนนสาทรใต้ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม. 10120
support@asiaplus.co.th หรือ dpo@asiaplus.co.th
0-2680-1111, 0-2285-1666, 0-2285-1888
- บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด
175 อาคารสาธรซิตี้ทาวเวอร์ ชั้น 3/1 ถนนสาทรใต้ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม. 10120
support@asiaplus.co.th หรือ dpo@asiaplus.co.th
0-2680-1000
- บริษัทที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด
175 อาคารสาธรซิตี้ทาวเวอร์ ชั้น 11 ถนนสาทรใต้ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม. 10120
ib@asiaplus.co.th หรือ dpo@asiaplus.co.th
0-2680-4002-3
- บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด
175 อาคารสาธรซิตี้ทาวเวอร์ ชั้น 17 ถนนสาทรใต้ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม. 10120
customercare@assetfund.co.th หรือ dpo@assetfund.co.th
0-2672-1111
(ข) เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
คณะอนุกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO Committee)
175 อาคารสาธรซิตี้ทาวเวอร์ ชั้น 3/1 ถนนสาทรใต้ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม. 10120
dpo@asiaplus.co.th